การจับคอร์ดกีต้าร์

การจับคอร์ดถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเล่นกีต้าร์เลยก็ว่าได้ ในโลกนี้มีคอร์ดอยู่มากมายมหาสาร
มีผู้รู้ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่าคอร์ดนั้นมีอยู่เป็นร้อยเป็นพันธ์เลยทีเดียว (โห้... ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ) ใครคิดวิธีจับแบบใหนได้ก็อาจจะเรียกเป็นคอร์ดใหม่เลยก็ได้ แต่อย่าพึ่งตกใจไปน่ะครับ คอร์ดหลักๆ นั้นมีอยู่แค่ 7 คอร์ดเท่านั้นเอง คือ A B C D E F และ G ส่วนที่เหลือนั้นก็จะเป็นพวกน้ำจิ๋มน้ำปลาทั้งนั้น

ในที่นี้ผมจะสอนวิธีการจับคอร์ดง่ายๆ และวิธีการดูคอร์ดจากรูปภาพ ซึ่งถ้าคุณรู้วิธีหล่าวนี้แล้ว คุณก็จะสามารถนำไปประยุคในการจับคอร์ดอื่นๆ ได้ เอาหละ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ




จากรูป เป็นคอกีต้าร์ในลักษณะหันหน้าเข้าหาตัว เส้นในแนวตั้งก็คือสายกีต้านั้นเอง โดยเลข 1 ที่กำกับอยู่ข้างบนก็คือสายที่ 1 หรือสายที่เล็กที่สุด ส่วนเลขหกก็คือสายที่ใหญ่ที่สุด

เส้นในแนวนอนก็คือเส้นขั้นระหว่างเฟร็ต โดยเฟร็ตบนสุดก็คือเฟร็ตที่ 1 และถัดลงมาก็คือเฟร็ตที่ 2, 3, 4 .... ไปเรื่อยๆ

ส่วนรูปด้านล่างนี้ เป็นตัวอย่างของการจับคอร์ด C ซึ่งตัวเลขในลูกกลมๆ สีแดงก็คือนิ้วมือซ้ายนั้นเอง โดยรายละเอียดมีดังนี้






1 = นิ้วชี้ 2 = นิ้วกลาง 3 = นิ้วนาง 4 = นิ้วก้อย

ตัวเลขต่างๆ หล่าวนี้ที่จริงแล้วในตารางคอร์ดทั่วๆ ไปจะไม่มีกำกับไว้ ถ้าไม่มีแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจับคอร์ดได้ถูกต้องหรือผิด? คำตอบก็คือไม่มีใครถูกใครผิดหรอกครับ เพราะการจับนั้นไม่ตายตัว ใครถนัดแบบใหนก็จับแบบนั้น แต่บางทีการจับให้ถูกต้องนั้นก็สำคัญเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นการจับคอร์ด G จากรูปจะเห็นว่าเราไม่จำเป็นที่จะต้องใช้นิ้วก้อย (เลข 4) ในการจับเลย เพราะนิ้วชิ้วเรายังว่างอยู่นิ หลายคนโดยเฉพาะมือใหม่ๆ ก็เลยใช้นิ้วชี้กดแทนนิ้วกลาง ส่วนนิ้วกลางก็เอาไปกดที่นิ้วนาง และนิ้วนางที่นิ้วก้อย ทำให้เราไม่ต้องใช้นิ้วก้อยเลย (ผมก็เคยจับแบบนี้มาตั้งนาน) ซึ่งดูเหมือนจะง่ายกว่าแบบแรกเยอะ เพราะมือใหม่ส่วนใหญ่จะไม่สันทัดกับการใช้นิ้วก้อยซักเท่าไหร

แต่ถ้าคุณเริ่มที่จะเล่นกีต้าร์เป็นแล้ว และคุณลองเล่นเพลงจากหนังสือเพลง คุณก็จะเจอกับคอร์ด Gsus4 ซึ่งจะต้องเปลี่ยนจากคอร์ด G ไปจับ Gsus4 (มันมักจะมาด้วยกัน) ซึ่งคุณจำเป็นมากที่จะต้องใช้นิ้วชี้ แต่นิ้วชี้คุณกลับใช้ไปแล้วซะนี่...

สรุปเลยละกันน่ะครับว่า การจับคอร์ดนั้นไม่ตายตัวเสมอไป แต่การจับให้ถูกหรือเหมาะสมก็เป็นสิ่งที่ควรทำครับ

ที่มา :: http://guitarxclass.blogspot.com/

การดูแลรักษากีต้าร์

การดูแลรักษากีต้าร์

ในเรื่องของอากาศ การเปลี่ยนแปลงอย่างพอประมาณ ในสภาพดินฟ้าอากาศ ไม่มีผลเสียกับกีตาร์ แต่การเปลี่ยนแปลง อย่างรุนแรง ของระดับความร้อน หรือความชื้น สามารถทำให้ เกิดความเสียหาย แก่ไม้ทุกชิ้น ที่บอบบางที่ใช้ในการ ทำกีตาร์ ถูกเลือกขึ้นมาด้วยเหตุผลหลายประการเช่น ความสวยงาม ,ความแข็งแรง ฯลฯ แต่ไม้เหล่านี้ ดูดซึมความร้อน จากอากาศ จะทั้งดูดและเก็บความชื้นไว้ คำแนะนำ จากผู้ผลิตกีตาร์ เกี่ยวกับความปลอดภัย จากความชื้นโดยเทียบเคียง มีประมาณ 65-85 เปอร์เซ็นต์ ทั้งกีตาร์สายเหล็ก และไนล่อน การรักษาสภาพ อากาศที่ดี สำหรับกีตาร์ ของท่าน ก็เพียง การใช้ความเอาใจใส่ นิดหน่อยเท่านั้น ในสภาพอากาศ ปานกลาง ไปจนถึง อบอ้าว วางผ้าชื้นน้ำชิ้นเล็กๆ หรือที่ทำความชื้น ของกีตาร์ ที่ราคาถูกๆ ไว้ในช่องสาย ของกล่องกีตาร์ เพื่อไม่ให้กีตาร์ มีสภาพ อบอ้าวเกินไป ในสภาพอากาศ ชื้นแฉะ มีที่ดูดความชื้น อย่างวิเศษ อันเล็กๆเรียกว่า SILICA GEL มีขายตามร้านถ่ายรูป มันจะช่วยไม่ให้กีตาร์ รับความชื้นไว้มาก ใคร ผู้เป็นเจ้าของกีตาร์ ที่บอบบางมากๆ น่าจะมีไฮโกรมิเตอร์ (เครื่องวัดความชื้น)ติดไว้สักอัน เพื่อเป็นการเตือน ที่แม่นยำ หากเป็น ไปได้ ควรเก็บกีตาร์ ให้พ้นจากสภาพอากาศชื้น กีตาร์ไฟฟ้า และกีตาร์โปร่ง ส่วนมากทาแลคเกอร์ และอาจขัดเงา ด้วยน้ำยาธรรมดา สำหรับกีตาร์หายาก ที่ทาน้ำยาขัดเงาไว้ ควรใช้ผ้าแห้งๆ เช็ด แทนที่จะใช้ผสม น้ำยาขัดเงา สำหรับกีตาร์ทั่วไป การลูบไล้ ด้วยน้ำยาขัดเงานั้น จะช่วยลบรอย นื้วมือและสร้างความใหม่ให้กับตัวกีตาร์อีกด้วย สายสะพายกีตาร์ ที่เคลือบไวนิล ไว้ไม่ควรทิ้ง ให้ติดกับกีตาร์ เมื่อมันอยู่ใน กล่อง ไวนิล อาจทำให้เปื้อน และทำให้น้ำยาขัดเงาด่างไป

การดูแลรักษากีต้าร์ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติ เพราะจะทำให้กีต้าร์ของเรามีเสียงที่ดีตลอดไป โดยวิธีการดูแลนั้นมีดังนี้

1.) หมัดทำความสะอาดกีต้าร์บ่อยๆ โดยเฉพาะสาย เป็นไปได้ควรทำทุกครั้งที่เล่นเสร็จ เพราะขณะที่เราเล่น จะมีเหงื่อไครติดอยู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ โดยเฉพาะสายกีต้าร์ที่มักจะขึ้นสนิม ส่วนวิธีการทำความสะอาดนั้น ควรใช้ผ้านุ้มๆ ไม่ต้องชุ้บน้ำเช็ด ถ้าเป็นไปได้ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดกีต้าโดยเฉพาะ

2.) เก็บไว้ในที่ปลอดภัย ไม่ร้อนเกินไป ไม่ควรเก็บไว้ที่สูง และควรเก็บไว้ในกล่องหรือถุงสำหรับใส่กีต้าร์เพื่อป้องกันการกระแทกและรอยขีดข่วน

3.) ถ้ารู้ว่าจะไม่ได้เล่นกีต้าร์นานๆ เช่นเป็นเดือน ควรผ่อนสายกีต้าร์ให้หย่อน เพื่อเป็นการถนอมสายและคอกีต้าร์ และลูกบิด

เพียงเท่านี้กีต้าร์ของคุณก็จะมีเสียงที่ไพเราะไปอีกนานครับ



ที่มา :: http://guitarxclass.blogspot.com/2008/08/blog-post_4284.html